Title : Iwish the series – E8 My father is GOD E02
Pairing : Chris Hemsworth x Tom Hiddleston and Little Iwish
Author : Babibubell
Talk : แด่วันเกิด (เลทๆ) ของน้องอินเดีย T^T จะมีครั้งไหนมั่งมั้ยที่ลงตรงวัน? อะฮื้อ… ป.ล. ใส่เป็น E8 นะ จะได้รู้ว่าตอนเดียวกัน เอิ๊กๆ (เริ่มงงอีกละชั้น ฮื้อ)
เสียงดนตรีบรรเลงดังขึ้นคลอเคลียกับเสียงพูดคุยในร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่ง สีขาวสะอาดตาตัดกับสีฟ้าอ่อนและสีกรมท่าเข้มทำให้บรรยากาศในร้านดูผ่อนคลายสมกับที่เป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัวยิ่งนัก แต่ท่ามกลางเสียงจ้อกแจ้กจอแจกลับมีอยู่โต๊ะหนึ่งที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนอึดอัด ดีว่าได้ความน่ารักของเด็กน้อยทั้งสองคนช่วยไว้ ไม่งั้นบรรยากาศคงน่าสะพรึงไปกว่านี้
เด็กน้อยผมสีน้ำตาลเข้มดูขยุกขยุยกำลังพยายามใช้ส้อมตัดเค้กช็อกโกแลตชิ้นใหญ่แล้วตักใส่ปากตัวเอง เธอนั่งอยู่บนตักชายหนุ่มผมดำที่เคาะนิ้วเป็นจังหวะไปมาบนโต๊ะพลางทำหน้าบึ้งตึงอยู่ ตรงข้ามกับเขาเป็นเด็กน้อยผมทองที่กำลังพยายามจิ้มลูกเบอร์รีสีเข้มที่มากับบลูเบอร์รีชีสเค้กก้อนโตเช่นกัน และเธอก็นั่งอยู่บนตักชายหนุ่มที่มีผมสีเดียวกับเธอ ซึ่งรูปร่างของเขาก็ออกใหญ่โตแท้ๆ แต่กลับนั่งจ๋องไหล่ห่อคอตกก้มหน้านิ่งเหมือนกำลังสำนึกผิดอะไรบางอย่างอยู่
“ป๊ะป๋าคะ อินเดียจิ้มบลูเบอร์รีได้แย้ว หนูเก่งมั้ยคะ?”
สิ้นคำว่า ‘ป๊ะป๋า’ นิ้วเรียวที่เคาะเป็นจังหวะก็หยุดลงทันที เจ้าของเรือนผมดำตวัดสายตาคมดุกลับไปมองยังคนตัวใหญ่ที่สะดุ้งเฮือกทันทีก่อนจะนั่งไหล่ห่อลงกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว
“กะ…เก่งมากจ้ะ อินเดียของป๊ะป๋า”
เด็กน้อยผมน้ำตาลทองฉีกยิ้มร่าด้วยความดีใจ หัวกลมๆ ที่เงยขึ้นมองหน้าป๊ะป๋าอยู่เมื่อกี้เบนความสนใจกลับมายังเจ้าบลูเบอร์รีชีสเค้กดังเดิม เจ้าผลไม้ลูกกลมนั้นถูกส่งเข้าปากเล็กๆ ไป ก่อนจะพยายามออกแรงทั้งหมดตัดเค้กชิ้นโตนั่นให้เป็นคำพอทานได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าแครกเกอร์ด้านล่างจะแข็งเกินกำลังเธอไปหน่อย
“ฮึบบบ”
อินเดียออกเสียงฮึบดังลั่นเป็นนัยว่าจะช่วยออกแรงได้ดียิ่งขึ้น เห็นดังนั้นคนตัวใหญ่จึงอดใจไม่ไหว ยื่นมือมาช่วยเด็กน้อยทันที คริสขอส้อมคันเล็กในมือเด็กหญิงมาก่อนจะออกแรงเพียงนิดก็ตัดเค้กชิ้นนั้นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำได้ ท่ามกลางสายตาวิบวับของเด็กหญิงผมบลอนด์ที่นั่งมองมือคุณพ่อปฏิบัติภารกิจด้วยความตื่นตาตื่นใจ เสียงเปาะแปะตบมือดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยอาการอ้าปากกว้างและส่งเสียงอ้าลากยาวรอป๊ะป๋าตัวใหญ่ป้อนขนมหวานให้
ภาพตรงหน้าอยู่ในคลองสายตาของชายหนุ่มผมดำมาโดยตลอด ยิ่งมอง ทอม ฮิดเดิลสตันก็ยิ่งอดน้อยใจไม่ได้ เกือบเก้าเดือนที่อยู่ร่วมห้องกันมา ไม่มีเลยสักครั้งที่เขาจะนึกเอะใจว่าชายหนุ่มมีลูกมีเมียแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ! ไม่โสดแถมยังมาจีบเขาอีกต่างหาก ผู้ชายที่ชื่อ คริส เฮมส์เวิร์ธนี่มันยังไงกัน
เรียวคิ้วสวยขมวดมุ่นกับภาพครอบครัวสุขสันต์ตรงหน้า นัยน์ตาหวานหม่นแสงลงอย่างคนเศร้าหมอง ตอนนี้สมองกับหัวใจกำลังตีกันนัวไปหมด ใจหนึ่งก็คิดอยากจะตัดความสัมพันธ์กับชายหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าทำลายครอบครัวคนอื่นและแย่งของของใคร แต่อีกใจมันก็นึกถวิลหา เกือบหนึ่งปีที่คบกันมา ความผูกพันมันรัดแน่นเหลือเกิน ความต้องการครอบครองคนตรงหน้ามันมากเกินจะเก็บกักไว้
“อ๊ะ!”
เสียงทุ้มติดจะหวานอุทานออกมาทันทีที่ครีมสีน้ำตาลเข้มถูกป้ายลงที่แก้มนวลใส พร้อมๆ กับเสียงหัวเราะคิกคักที่ดังขึ้น พอก้มมองลงไปยังต้นเสียง หลานสาวคนเก่งของเขาก็ยิ้มเผล่พลางปรบมือเปาะแปะชอบอกชอบใจ
“แกล้งอาทำไมคะไอวิช”
คนเป็นอาไม่ได้ถือโทษโกรธเด็กน้อย ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกดีที่หลานสาวดึงเขาให้หลุดจากภวังค์นั่นและกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง
หนูน้อยผมสีน้ำตาลเข้มหยักยุ่งใช้มือเล็กๆ เท้าลงกับโต๊ะตัวใหญ่ ก่อนจะยันตัวขึ้นยืนบนตักคุณอาหนุ่ม หันหน้ามาสบดวงตาสีเขียวหม่นหมองนั่น นิ้วป้อมยื่นไปเกลี่ยครีมละมุนสีช็อกโกแลตออกจากแก้มคนตัวโตกว่า พลางเอ่ยเหตุผลของการกระทำตน
“ไอวิชไม่ได้แกล้งอาทอมนะคะ แต่ไอวิชไม่ชอบเลยที่อาทอมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนี้ ไอวิชก็เลยจะป้อนเค้กคุณอาค่ะ”
เด็กน้อยหมุนตัวหันหน้าเข้าหาโต๊ะอีกครั้ง เธอย่อตัวลงแล้วใช้ส้อมตักเค้กช็อกโกแลตนุ่มๆ ขึ้นมา ก่อนจะยื่นมันไปจ่อตรงหน้าคุณอาคนเก่งของเธอ
“อ้าาา”
ไม่ป้อนเปล่า มีการออกเสียงเป็นตัวกระตุ้นด้วย
ทอม ฮิดเดิลสตันเห็นพฤติกรรมน่ารักๆ ของหลานสาวแล้วก็ระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย เสียงถอนหายใจดังขึ้นก่อนจะส่ายหน้าไปมาด้วยความเอ็นดู ริมฝีปากอิ่มสวยอ้าออกรอรับเค้กช็อกโกแลตชิ้นเล็ก ไม่นานมันก็เข้าปากไปด้วยฝีมือของเด็กหญิงไอวิช
“เย้! อาหย่อยมั้ยคะอาทอม”
“อาหย่อยค่ะไอวิช”
เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นระหว่างอาหลาน ทำลายบรรยากาศมาคุที่รายล้อมให้ทลายลงไปได้เกือบหมด เว้นเสียแต่ว่าชายหนุ่มผมทองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นทำแก้มอูมอย่างขัดใจยกใหญ่
คริส เฮมส์เวิร์ธมองภาพตรงหน้าด้วยความอิจฉา จริงๆ ต้องเป็นเขาไม่ใช่เหรอที่ป้อนเค้กให้คนตัวบางนั่น ไม่ใช่หลานสาวหัวขยุกขยุยอะไรนั่นซะหน่อย
คิดแล้วก็น้อยใจอยู่ไม่ใช่น้อย คบกันมาเกือบเก้าเดือน เขาไม่เห็นรู้เลยว่าทอมมีหลานสาวที่คนตัวบางรับเป็นผู้ปกครองแบบนี้น่ะ ไม่สิ ไม่ใช่แค่เรื่องหลานสาว แต่เขาแทบไม่รู้เรื่องของทอมเลยสักนิด พ่อแม่ชื่ออะไร เกิดที่เมืองไหน มีพี่น้องกี่คน ในขณะที่ทอมรู้ข้อมูลของเขาหมดตั้งแต่วันแรกๆ ที่เจอกัน
เอ่อ…ไม่หมดสินะ ยกเว้นเรื่อง อินเดีย โรส เฮมส์เวิร์ธ ที่เขายังไม่ได้บอกทอมออกไป เพราะถ้าร่างเพรียวรู้แล้วคงไม่มานั่งตีหน้ายักษ์ใส่เขาอยู่แบบนี้หรอก เฮ้อ…
“เฮ้ย”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างตกใจขึ้นมาเบาๆ เมื่อแก้มสากๆ ที่พองลมอยู่เมื่อครู่ถูกปลายส้อมเล็กจิ้มเอาอย่างไม่แรงนัก แค่พอสะดุ้งสะเทือนเท่านั้น คนที่ถูกเรียกว่าป๊ะป๋าก้มมองไปยังลูกสาวคนเก่งก็พบกับรอยยิ้มกว้างขวางจนตาตี่ลง ในมือของเธอกำส้อมเอาไว้แน่น
เด็กน้อยหยัดตัวขึ้นยืนบ้าง ก่อนจะหันหน้าเข้าหาชายหนุ่ม แก้มของคริส เฮมส์เวิร์ธถูกจิ้มด้วยส้อมปลายแหลมอีกครั้งพร้อมกับเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจของหนูน้อยผมสีน้ำตาลทอง
“อ๊า อินเดียแกล้งป๊ะป๋าทำไมคะ”
“อินเดียไม่ได้แกล้งป๊ะป๋านะคะ แต่เมื่อกี้แก้มป๊ะป๋าบวมตุ่ยเป็นปลาปั๊กกาเป้าเลย หนูก็เลยจะทำให้แก้มป๊ะป๋าหายบวมค่ะ”
โดยการเอาส้อมจิ้มแก้มป๊ะป๋าเนี่ยนะ…
ฉลาดได้พ่อเลยลูก
“สม…อยากสอนให้ลูกชอบใช้กำลังดีนัก โดนซะบ้าง จะได้ไม่สอนลูกให้ไปแกล้งใครอีก”
เสียงหวานแผ่วลอยตามลมมาเบาๆ ดวงตาสีฟ้าใสตวัดมองไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ทอม ฮิดเดิลสตันก็ทำเฉไฉโดยแสร้งยกถ้วยชาขึ้นมาจิบพลางเสตามองไปทางอื่นเป็นนัยว่าไม่รู้ไม่ชี้
พอเจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นใบหน้าขาวๆ มุ่ยลงก็ชอบอกชอบใจยกใหญ่ เพราะมันดูเหมือนตัวละครในหนังที่เธอชอบน่ะสิ
“ป๊ะป๋าขา ป๊ะป๋าต้องเอาน้องโลกิมาอยู่กับเราให้ได้นะคะ หนูอยากเล่นกับน้องโลกิแบบไอวิชบ้าง ไอวิชมีน้องโลกิเล่นคนเดียว อินเดียไม่ยอมนะคะ”
เจ้าตัวเล็กยืดตัวมากระซิบข้างหูบอกความประสงค์ เรียกรอยยิ้มแหยๆ ให้ประดับอยู่บนใบหน้าหล่อๆ ได้เป็นอย่างดี ก็นะ…น้องโลกิจะไม่มาอยู่กับป๊ะป๋าก็เพราะหนูยังเรียกป๊ะป๋าๆ อยู่แบบนี้นั่นแหละ
ดูสิ…จนป่านนี้ยังไม่ยอมมองหน้า ไม่ยอมคุยกับเขาดีๆ เลยด้วยซ้ำ
“โอ๊ย!”
เสียงทุ้มต่ำอุทานอีกครั้ง คราวนี้มันดังกว่าคราวที่แล้วบ่งบอกถึงความรุนแรงของส้อมที่ใช้จิ้มมากกว่าเดิม แม่หนูน้อยคนเก่งพอเห็นคนเป็นพ่อร้องก็รีบทิ้งส้อมในมือพร้อมๆ กับทิ้งตัวนั่งลงบนตักผู้เป็นพ่อทันที
แก้มของคริส เฮมส์เวิร์ธถูกฝากรอยรักจากฝีมือลูกน้อยเอาไว้ รอยแผลเป็นเส้นบางยาวๆ มีเลือดสีแดงซึมตามออกมาอีกนิดหน่อย มันเล็กน้อยเสียจนเจ้าตัวยังไม่กังวลเลยด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนว่าใครอีกคนจะไม่ได้คิดแบบนั้น
เคยห่วงยังไง ก็ยังคงห่วงอยู่อย่างนั้น
ผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดถูกยื่นมาอยู่ตรงหน้าคนเจ็บ ชายหนุ่มผมทองไล่มองตามมือที่ถือมันไว้ เรื่อยขึ้นไปถึงใบหน้าของคนฟอร์มจัดที่เบือนหน้าแดงๆ หนีไปทางอื่น ไม่ยอมหันมองเขาเลยสักนิด
ทอมยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยให้จนสุดแขน เมื่อเห็นว่านานแล้วแต่อีกฝ่ายยังไม่ยอมรับไปสักทีจึงสะบัดมือไปมาพร้อมส่งเสียง ‘อื้อ’ เร่งเร้าในลำคอ
แต่ถึงกระนั้น คริส เฮมส์เวิร์ธก็ยังไม่ยอมรับมันไป
ดวงตาไร้เดียงสาของเด็กน้อยผมหยักยุ่งมองพฤติกรรมผู้ใหญ่ด้วยความสงสัย เธอเงยหน้ามองคุณอาของเธอที หันไปมองป๊ะป๋าธอร์ของเด็กหญิงอินเดียที สมองน้อยๆ กำลังคิดแบบสิบแปดตลบว่าผู้ใหญ่สองคนนี้กำลังทำอะไรกัน คุณอาทอมให้ผ้าเช็ดหน้าแล้วทำไมป๊ะป๋าของอินเดียถึงไม่รับไปสักที แถมมีแผลแท้ๆ แต่กลับยิ้มระรื่นเหมือนสอบได้ที่หนึ่งแบบนั้นแหละ ไอวิชไม่เข้าใจ
หรือโตแล้วเป็นแผลจะไม่เจ็บ?
“อื้อ!”
เสียงเข้มๆ เร่งเร้าให้อีกฝ่ายรับผ้าเช็ดหน้าไปอีกครั้ง หยุดความคิดของหนูน้อยไอวิชลง แต่มันก็ไม่ได้หยุดความสงสัย ดวงตาสีเข้มของเธอยังคงมองการกระทำของผู้ใหญ่ทั้งสองคนอยู่ เพราะอย่างที่บอก คริส เฮมส์เวิร์ธไม่ยอมรับมันไปง่ายๆ หรอกนะ ก็ทอมอุตส่าห์เหมือนจะใจอ่อนทั้งที ก็ขอเล่นตัวดึงเชงกันเสียหน่อย
“ถ้าเป็นห่วงขนาดนั้น ทำไมไม่มาเช็ดเองล่ะ”
สิ้นประโยค ดวงหน้าขาวที่ซับสีเลือดเล็กน้อยก็หันขวับมาเผชิญหน้าด้วยความหมั่นไส้ และยิ่งหมั่นไส้มากไปอีกเมื่อเห็นไอ้คนเจ็บที่เขาอุตส่าห์เป็นห่วงเป็นใยนั่น นั่งเท้าคาง ยิ้มแป้นแล้น ทำหน้าทะเล้นส่งให้อยู่น่ะสิ ให้ตายเหอะ! ผู้ชายชื่อคริสนี่เป็นคนยังไงกัน!
ผัวะ!
“ฮ่าๆๆ”
ด้วยความหงุดหงิดผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเลยถูกเจ้าของขว้างไปใส่คนหน้าเป็นทันที เรียกเสียงหัวเราะทั้งจากคุณพ่อตัวใหญ่ และคุณลูกตัวจ้อยที่ผ้าเช็ดหน้าเจ้ากรรมดันหล่นแหมะอยู่บนหัวกลมๆ นั่นพอดี
“คิกๆ อินเดียเช็ดให้ป๊ะป๋าเองค่ะ”
มือป้อมๆ หยิบผ้าผืนเล็กออกจากศีรษะก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วถูผ้าผืนนั้นลงไปบนแก้มสากๆ ของคุณพ่ออย่างเต็มแรง เล่นเอาคนตัวโตร้องเสียงหลง เพราะนอกจากจะเช็ดไม่โดนแผลแล้วยังจิ้มจมูกจิ้มปากเขาอีกต่างหาก ทีนี้เลยได้ขำกันยกใหญ่
คนตัวบางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกอดเด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตักแน่นขึ้น วงแขนกระชับรอบลำตัวสั้นๆ พลางวางคางลงบนศีรษะเล็กๆ ดวงตาสีเขียวสวยมองภาพตรงหน้าแล้วสะท้อนใจอีกครั้ง เขาจะจัดการกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ยังไงดี
“ชื่อ…”
“หือ?”
ในที่สุดเสียงหวานก็ตัดสินใจเอ่ยคำถามที่ทำร้ายจิตใจตัวเองไม่น้อย หากแต่ความรู้สึกก็กลับอยากรู้คำตอบของคำถามนี้อยู่เหมือนกัน ว่าผู้หญิงที่แสนโชคดีคนนั้นที่ได้ครอบครองตัวและหัวใจของผู้ชายที่แสนอ่อนโยนคนนี้คือใคร เขาจะรู้จักไหมนะ
“ชื่ออะไร”
คนได้ฟังคำถามขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย มือใหญ่จับมือลูกน้อยให้หยุดเช็ดหน้าตนก่อนจะสอดมือไปใต้รักแร้แล้วหมุนตัวให้เด็กหญิงผมทองหันหน้าเข้าโต๊ะอีกครั้ง
“ชื่อ? ชื่ออะไร? ชื่อฉันน่ะเหรอ ก็ชื่อคริสไง คริสโตเฟอร์ อยู่ด้วยกันจะครบปีล่ะนะ นายยังจำไม่ได้อีกเหรอทอม”
ตอบด้วยน้ำเสียงและหน้าตาใสซื่อ จนคนได้ฟังคิดจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลง ก็แววตาหมาสงสัยแบบนี้ใครไม่ใจอ่อนก็บ้าแล้ว
“นายนี่โง่หรือโง่เนี่ย ฉันจะถามชื่อนายไปทำไมล่ะ ฉันหมายถึงชื่อนี่…”
เอ่ยพลางบุ้ยปากไปยังเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังละเลงบลูเบอร์รีชีสเค้กด้วยมือป้อมๆ ทั้งสองข้าง แก้มสีชมพูระเรื่อถูกแต่งแต้มด้วยสีม่วงเข้มของบลูเบอร์รี
สีเดียวกับที่ป๊ะป๋าธอร์ระบายลงบนผ้าขาวเลย
พอเห็นอาการบุ้ยใบ้ของคนตัวบาง ไอ้แววตาหมาสงสัยก็เปลี่ยนเป็นดีใจทันที
“อ๋อ ก็อินเดียไง อินเดีย โรส เฮมส์เวิร์ธ เมื่อกี้ตอนอยู่ที่โรงเรียนครูสการ์เล็ตต์ก็แนะนำไปทีนึงแล้วนี่”
มือบางละจากเอวกลมของหลานสาวยกขึ้นมานวดขมับตัวเอง โอเค ใครบอกว่าหมาฉลาด เขาขอเถียงสุดใจขาดดิ้นเลย
“เอ่อ…ขอเดานะว่านายไม่ได้หมายถึงชื่อของอินเดีย…ใช่มั้ย?”
อ่อ ดีนะที่มันยังพอจะมีความเฉลียวหลงเหลืออยู่บ้าง ให้ตายสิ จากที่กำลังเครียดๆ เล่นเอาหมดมู้ดเลยทีเดียว เฮ้อ
“อื้อ ฉันหมายถึง เอ่อ แม่ อืม ของน้อง…อินเดียต่างหากล่ะ…”
กลีบปากอิ่มเปล่งเสียงตะกุกตะกักก่อนจะใช้ฟันขบปากแน่นเมื่อพูดจบประโยค ใครจะคิดว่าคำถามง่ายๆ แต่กลับบีบหัวใจตัวเองได้ขนาดนี้
ชายหนุ่มผมทองได้ฟังดังนั้น คิ้วสวยก็ขมวดปมยุ่งอีกครั้ง ร่างใหญ่ก้มหน้าลงแอบกระซิบกระซาบกับหนูน้อยผมน้ำตาลทอง ได้ยินแว่วๆ เป็นคำถามแบบเดียวกับที่เขาเอ่ยถามไปเป๊ะๆ พอเห็นแบบนั้นทอม ฮิดเดิลสตันก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น
อะไรกัน แค่ชื่อแฟนตัวเองก็ต้องถามลูกด้วย? นี่อย่าบอกนะว่า…
มั่วไปเยอะจนจำไม่ได้ว่าใครเป็นแม่ของลูกน่ะ หน็อย นายนี่มัน…
น่าเอาค้อนแพ่นกบาลนัก!
“อะไร!? แค่ชื่อแฟนตัวเองนายก็จำไม่ได้เหรอ?”
“หือ? โธ่ แล้วนายก็ไม่ถามแบบนี้ตั้งแต่ทีแรก ชื่อแฟนฉันน่ะเหรอ…”
“อะ…อื้อ”
พยักหน้าหงึกหงัก กลั้นใจรอคำตอบ ทั้งๆ ที่เป็นเวลาเพียงชั่วเสี้ยววินาที แต่ทอมกลับรู้สึกว่าเนิ่นนานเสียเหลือเกิน
“ชื่อแฟนฉัน…”
“…”
“…ก็นายไง”
เสียงทุ้มเอ่ยตอบอย่างไม่มีขัดเขินแถมยังหนักแน่นชัดเจนเสียจนคนที่ได้ฟังถึงกับอึ้ง จากคราแรกที่รู้สึกกดดันราวกับจะร้องไห้อยู่แล้ว พอได้ยินคำตอบแบบนี้ยิ่งทำให้คนตัวบางรู้สึกอึดอัดใจระคนน้อยใจมากขึ้นไปอีก
อะไรกัน นี่จะล้อเขาเล่นไปถึงไหน หลอกกันมาตั้งนานยังสนุกไม่พอใช่มั้ย? แกล้งให้เขารักขนาดนี้ยังไม่สาแก่ใจใช่มั้ย?
“อย่ามาล้อกันเล่นนะ”
“ล้อเล่น?”
“ใช่ มันไม่ตลกเลยสักนิดนะคริส เฮมส์เวิร์ธ จะหลอกกันไปอีกนานแต่ไหน พูดความจริงออกมาได้แล้ว ไม่ได้สนใจกันมาตั้งแต่แรกแล้วมาหลอกกันทำไม ก็ถ้ารู้ว่าเป็นคนแบบนี้…”
“ทอม…”
“ไม่รู้จักกันเลยซะยังดีกว่า”
ดวงตาสีเขียวสวยสั่นระริกด้วยความรู้สึกอันหลากหลายที่ประดังประเด มากกว่าความเสียใจมันยังมีความรู้สึกเจ็บปวด เจ็บใจอยู่ด้วย ราวกับทั้งโลกถล่มทลาย ความเชื่อใจที่เคยมีให้มันสลายไม่เหลือแม้แต่ผงธุลี
ทอม ฮิดเดิลสตันลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที พลางจับจูงมือหลานสาวตัวน้อยเตรียมตัวเดินออกจากร้าน แต่เพียงแค่หันหลังข้อมือบางก็ถูกมือแกร่งฉุดรั้งเอาไว้เสียก่อน
คริส เฮมส์เวิร์ธประชิดตัวทันทีที่เห็นว่าสถานการณ์เริ่มย่ำแย่ เขาออกแรงกระชากอีกฝ่ายนิดเดียวคนคนนั้นก็หมุนกลับมาเผชิญหน้า ข้อมือขาวยังคงถูกเหนี่ยวรั้งแน่นกว่าเดิม นัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธเคือง แต่ไม่มีแม้กระทั่งน้ำตาเอ่อออกมาให้เห็น
“ปล่อย”
เสียงหวานเอ่ยขู่ต่ำลอดไรฟัน แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าไหร่นัก เมื่อชายหนุ่มผมทองดึงร่างนั้นให้เข้ามาใกล้มากขึ้น
“ทอม นายกำลัง อ๊ะ!”
พูดยังไม่ทันจบประโยค ความรู้สึกเหมือนโดนอะไรบางอย่างเตะตัดน่องก็เกิดขึ้น พอก้มมองลงไปด้านล่างก็เห็นกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มขยุกขยุยกำลังเอียงตัว ยืนยกขาข้างหนึ่งเตะป้าบๆ มายังเนื้อตรงน่องของเขา
“ปล่อยอาทอมของไอวิชนะ ฮึก พี่ธอร์บ้า รังแกน้องโลกิ ฮึก ของไอวิชได้ยังไง”
เสียงสะอึกสะอื้นของเด็กน้อยดังขึ้นเบาๆ หยุดการกระทำของผู้ใหญ่สองคนลงทันที ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าธอร์ค่อยๆ ปล่อยข้อมือของอีกฝ่ายที่ตนเกาะกุมอยู่ให้เป็นอิสระแล้วรีบสอดมือไปใต้วงแขนน้อยๆ ของเด็กหญิงตัวเล็ก อุ้มขึ้นมาให้นั่งอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของตน
“โอ๋ๆๆ พี่ธอร์จะรังแกน้องโลกิได้ไงล่ะคะ ในเมื่อพี่ธอร์รักน้องโลกิขนาดนี้”
ดวงตาคมสวยสีฟ้าสดใสจ้องมองไปยังคนที่ได้ชื่อว่า ‘โลกิ’ ที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบเดียวกับหลานสาวไม่มีผิด กลีบปากสวยขบเม้มกันจนแน่นก่อนจะหลุบดวงตาลงต่ำแล้วเบนหน้าหนีไม่ยอมสบตาอีกฝ่ายที่จ้องมองมาอย่างอ้อนวอน
คำสารภาพรักกลายๆ ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ทอมรู้สึกดีใจเลยสักนิด รังแต่จะสร้างความรู้สึกผิดในใจให้ก่อเกิดขึ้น
“ไอวิช…ไอวิชไม่เชื่อ พี่ธอร์ใจร้าย ใจร้าย นี่แน่ะๆ”
เด็กน้อยหันหน้าเข้าหาคนที่อุ้มตนอยู่ น้ำหูน้ำตาไหลอาบใบหน้ากลมที่แดงก่ำ มือเล็กๆ ระดมตบแปะๆ ไปที่แก้มสากๆ ของชายหนุ่ม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คริส เฮมส์เวิร์ธเจ็บอะไรนัก จนกระทั่ง…
“งั่ม”
“โอ๊ย!”
เสียงทุ้มร้องออกมาเมื่อฟันคมๆ ของหนูน้อยวัยเกือบสองขวบงับลงตรงหัวไหล่ เสื้อยืดสีขาวชุ่มน้ำลายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ เพราะเด็กหญิงตัวน้อยยังงับอยู่ไม่ยอมปล่อย พอเห็นแบบนั้นคนตัวบางก็หันขวับกลับมาเตรียมจะแยกหลานสาวตนเองออกจากไหล่ชายหนุ่มรุ่นน้องทันที
“ไอวิช!”
“อื้อ อี้ออใออ๊าย”
“ไอ…ไอวิช”
มือใหญ่ยกขึ้นลูบผมสีเข้มของเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ต่างอะไรกับอีกคนที่ขยับเข้ามาใกล้แล้ววางมือขาวลงบนแผ่นหลังที่สั่นไหวของหลานสาว ลูบขึ้นลงอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบประโลม แต่ไม่นานนัก คริสก็ละมือจากกลุ่มผมขยุกขยุย เลื่อนมาจับมืออีกฝ่ายไว้แทน
ดวงตาสองคู่สบกัน ความรู้สึกรักมากมายมันถูกส่งผ่านออกมาจากนัยน์ตาสีฟ้าใสนั่น ความรู้สึกอันคุ้นเคยกำลังละลายความแข็งกร้าวในใจเขาลงอย่างช้าๆ ยังไงก็คงต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ก่อนที่จะมีใครต้องเสียใจไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะ…
แววตาเจ็บปวดปราดมองไปยังโต๊ะตัวใหญ่ เด็กหญิงสีผมเดียวกับชายหนุ่มเพื่อนร่วมห้องกำลังใช้ส้อมตัดบลูเบอร์รีชีสเค้กอยู่
เด็กน้อยที่ชื่อ…อินเดีย
To be Continue…
Talk again : คือ…อยากแต่งคู่คุณครูขากับนักศึกษาซื่อบื้อแล้วอะ แต่…เรื่องของเด็กน้อยยังไม่จบ ยังคงลากยาวอยู่ T^T ไม่ได้เบื่อคู่ฮิเหวิดนะ แต่แค่คิดถึงพี่เบนนน
เดี๋ยวจะพยายามเคลียร์ให้จบเป็นเรื่องๆ ไปนะคะ >< ตอนนี้มีตอนใหม่มารออีกแล้ว (ซึ่งวันที่อยากจะเอาลงก็เลยไปแล้วด้วย ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก T w T
ส่วนเรื่องนี้เค้าขอโทษนะ ไม่ได้จะทำให้ดราม่าจริงๆ นะเธ๊ออออ *เขิล* เด็กน้องสองคนออกน้อยไปหน่อย เซ็งงงง อารมณ์มันพาไป คราวหน้าเอาเป็นไอวิชกับน้องอินเดียตบตีแย่งน้องโลกิกันดีกว่า อ่าเฮะะะะ #ผิดสินะ คิดว่าตอนหน้าน่าจะจบแล้วค่ะ รีบเอามาลงก่อนเพราะว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ถึงต้นเดือนหน้าจะหายตัวแบ๊ววว มันเริ่มมหกรรมปิดเล่ม จะไม่สามารถกระดิกกระเดี้ยวเอี้ยวตัวได้ ฮื้ออออ
แอบกระซิบว่า…คราวหน้ามีตัวละครลับที่จะไม่ลับอีกต่อไปแล้วล่ะ อุวะฮะฮะฮ่า~
เรื่องแฟนอาร์ตนี่ก็อยากมีน้าา แต่ไม่มีใครวาดรูปให้ โฮร้วววว เดี๋ยวขอไปบังคับคนแถวนี้ก่อน อะฮึก… T^T
ส่วนเรื่องของยูจีนอีกสามตอน เดี๋ยวรีไรต์ใหม่แล้วค่อยเอามาลงนะก๊ะ อุฮิๆ > w <
ร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ทุกคน <3